สภาพอากาศที่พักมันก็ช่างมีแสงแดดมากมาย
ก็เลยมีแนวความคิดที่อยากจะติดฟิล์มกรองแสงที่ที่พักกันซะหน่อย พอดีที่ที่อยู่มีสองชั้นโดยชั้นล่างของบ้านพักอาศัยเป็นปูนซึ่งมีกระจกรอบบ้านไปหมดเลย
ส่วนชั้นบนเป็นไม้ซึ่งหน้าต่างและประตูก็เป็นกระจกหมดเลย
คราวนี้ซิบ้านไหนที่มีหน้าต่างหรือประตูเป็นกระจกบานใหญ่ๆ แล้วล่ะก็ เวลาอากาศเย็น
กระจกก็จะถ่ายความเย็นออกมามากกว่าประตูที่เป็นไม้
ทำให้สบายจนแทบไม่อยากจะตื่นขึ้น อยากนอนหลับตื่นสายๆ มากเลย ยิ่งเป็นวันพักผ่อนแล้วล่ะก็ร้องขออย่าได้มาปลุกกันเลย
ขอหลับใหลให้คุ้มกับที่รออากาศเย็นมานเป็นเวลายาวนานแล้ว แต่กลับกันคราวนี้พอเป็นหน้าร้อน
ร้อนชนิดที่เขาเรียกกันว่า ร้อนตับแตกเลยเชียว แดดร้อนๆ ไม่ต้องคิดจะขึ้นไปนอนในบ้านเลยนะ
ขนาดด้านล่างยังขนาดนี้เลย
ทีนี้ไปมองดูบ้านใกล้เคียงและคอนโดใหม่ๆเขาติดกระจกกันสวยๆเราไปถามกลับเขาว่าทำไมสีกระจกเงาถึงสวยจังเลย
หน้าแหกกันไปเลยครั้งนี้ ตอบกับมาว่าเขาติดฟิล์มกรองแสงที่กระจกและกระจกทุกบานเลย
นอกจากวิจิตรแล้ว ยังช่วยให้บ้านเรือนเย็นขึ้นด้วย
ก็เลยถามต่อไปอีกว่าแล้วราคาติดฟิล์มกรองแสงราคามากไหมนะ เขาก็บอกตามสถานะที่เป็นอยู่มาว่า
ท่าเราติดครั้งเดียวทั้งหลังราคาติดฟิล์มกรองแสงมันจะถูกลงมากเลย
กว่าที่เราจะติดเพียงแค่ชั้นเดียวนะ ชอบสีของฟิล์มกรองแสงเราก็เลือกเองตามสบายหรือจะตามโชคชะตาราศีได้เลยตัวอย่างเช่น
สีดำ สีชา สีฟ้าและอมเขียว แถมยังมีทั้งแบบฟิล์มใสที่เข้ากันสำหรับติดไว้ที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างของที่อยู่
ฟิล์มปรอท และฟิล์มสีทึบๆที่เหมาะสมสำหรับติดไว้ที่ห้องนอนกันใครๆ มาแอบดู
ส่วนเรื่องความเข้มของการติดตั้งนั้นก็ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานก็แล้วกันหนอ
อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวกันจริงๆ
กว่าจะมาเขียนเรื่องเรื่องนี้ให้เพื่อนพ้องๆ อ่านกันได้ก็ต้องไปทำความเข้าใจและเสียเงินไปพอสมควร
แต่สิ่งที่ได้กลับมากับความคุ้มค่าก็คือเรื่องของการประหยัดค่าไฟฟ้าลดลงมาเบาลงมาเลย
นี่มันเป็นได้รับกลับมามาจากการติดฟิล์มกรองแสงที่ดีและถูกวิธีแค่นี้บ้านพักอาศัยของเราก็กลับมาน่าอาศัยอาศัยยิ่งๆ
กว่าเดิมซะอีกนะ เพราะมันเก๋กว่าเดิมมากขึ้นและทำให้บ้านเรือนดูดีมีตระกูลขึ้นมาโดยทันใจ
ก็ขอจบเนื้อเรื่องของการติดฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคารบ้านเรือนของเราแต่เพียงแค่นี้
credit ราคาติดฟิล์มกรองแสง