วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ติดฟิล์มกรองแสง บริเวณโรงงาน


            สภาพอากาศที่พักมันก็ช่างมีแสงแดดมากมาย ก็เลยมีแนวความคิดที่อยากจะติดฟิล์มกรองแสงที่ที่พักกันซะหน่อย พอดีที่ที่อยู่มีสองชั้นโดยชั้นล่างของบ้านพักอาศัยเป็นปูนซึ่งมีกระจกรอบบ้านไปหมดเลย ส่วนชั้นบนเป็นไม้ซึ่งหน้าต่างและประตูก็เป็นกระจกหมดเลย คราวนี้ซิบ้านไหนที่มีหน้าต่างหรือประตูเป็นกระจกบานใหญ่ๆ แล้วล่ะก็ เวลาอากาศเย็น กระจกก็จะถ่ายความเย็นออกมามากกว่าประตูที่เป็นไม้ ทำให้สบายจนแทบไม่อยากจะตื่นขึ้น อยากนอนหลับตื่นสายๆ มากเลย ยิ่งเป็นวันพักผ่อนแล้วล่ะก็ร้องขออย่าได้มาปลุกกันเลย ขอหลับใหลให้คุ้มกับที่รออากาศเย็นมานเป็นเวลายาวนานแล้ว แต่กลับกันคราวนี้พอเป็นหน้าร้อน ร้อนชนิดที่เขาเรียกกันว่า ร้อนตับแตกเลยเชียว แดดร้อนๆ ไม่ต้องคิดจะขึ้นไปนอนในบ้านเลยนะ ขนาดด้านล่างยังขนาดนี้เลย ทีนี้ไปมองดูบ้านใกล้เคียงและคอนโดใหม่ๆเขาติดกระจกกันสวยๆเราไปถามกลับเขาว่าทำไมสีกระจกเงาถึงสวยจังเลย หน้าแหกกันไปเลยครั้งนี้ ตอบกับมาว่าเขาติดฟิล์มกรองแสงที่กระจกและกระจกทุกบานเลย
            นอกจากวิจิตรแล้ว ยังช่วยให้บ้านเรือนเย็นขึ้นด้วย ก็เลยถามต่อไปอีกว่าแล้วราคาติดฟิล์มกรองแสงราคามากไหมนะ เขาก็บอกตามสถานะที่เป็นอยู่มาว่า ท่าเราติดครั้งเดียวทั้งหลังราคาติดฟิล์มกรองแสงมันจะถูกลงมากเลย กว่าที่เราจะติดเพียงแค่ชั้นเดียวนะ ชอบสีของฟิล์มกรองแสงเราก็เลือกเองตามสบายหรือจะตามโชคชะตาราศีได้เลยตัวอย่างเช่น สีดำ สีชา สีฟ้าและอมเขียว  แถมยังมีทั้งแบบฟิล์มใสที่เข้ากันสำหรับติดไว้ที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างของที่อยู่ ฟิล์มปรอท และฟิล์มสีทึบๆที่เหมาะสมสำหรับติดไว้ที่ห้องนอนกันใครๆ มาแอบดู ส่วนเรื่องความเข้มของการติดตั้งนั้นก็ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานก็แล้วกันหนอ อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวกันจริงๆ กว่าจะมาเขียนเรื่องเรื่องนี้ให้เพื่อนพ้องๆ อ่านกันได้ก็ต้องไปทำความเข้าใจและเสียเงินไปพอสมควร แต่สิ่งที่ได้กลับมากับความคุ้มค่าก็คือเรื่องของการประหยัดค่าไฟฟ้าลดลงมาเบาลงมาเลย
            นี่มันเป็นได้รับกลับมามาจากการติดฟิล์มกรองแสงที่ดีและถูกวิธีแค่นี้บ้านพักอาศัยของเราก็กลับมาน่าอาศัยอาศัยยิ่งๆ กว่าเดิมซะอีกนะ เพราะมันเก๋กว่าเดิมมากขึ้นและทำให้บ้านเรือนดูดีมีตระกูลขึ้นมาโดยทันใจ ก็ขอจบเนื้อเรื่องของการติดฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคารบ้านเรือนของเราแต่เพียงแค่นี้